
นับแต่ปีพ.ศ 2515 ชาวเชียงใหม่หากใครได้ผ่านไปมา บริเวณเชิงสะพานเม็งรายอนุสรณ์
จากลูกค้าเฉพาะคนเชียงใหม่ ก็เริ่มเป็นที่รู้จักของฃาวกรุ งเทพฯ และต่างจังหวัด เนื่องจากจะมี ข้าราชการ พ่อค้า คหบดีในเชียงใหม่นิยมนำไปเป็ นของฝาก อีกทั้งเวลาที่จังหวัดจัดงานก็ จะนำสินค้าไปออกร้านจำหน่ายสิ นค้า หากงานไหนมีการประกวดอาหารพื้ นเมืองก็จะเข้าร่ามประกวดและได้ รับรางวัลด้วยทุกครั้งไป จากจุดนี้เองทำให้ร้าน “ไส้อั่วเม็งราย” จึงค่อยๆ เป็นที่รู้จักแพร่หลายขึ้น
อีก 15 ปีต่อมา ได้มีการทำร้านเล็ก ๆ ให้เป็นสัดส่วนและได้ตั้งชื่อร้ านว่า “ร้านอัมพรไส้อั่วเม็งราย” ตามชื่อของเจ้าของร้าน คุณอัมพร ศรีทาเกิด ได้มีการนำเครื่องจักรเข้ามาช่ วยงานอย่างเช่น เครื่องบดเนื้อหมู เครื่องผสมส่วนผสม เครื่องอัดไส้อั่ว และเตาย่างแบบไร้ควัน แต่ก็ยังมีลักษณะการผลิตแบบอุ ตสาหกรรมภายในครอบครัว พร้อมกับได้มีการผลิตน้ำพริกหนุ่ ม, แหนมหม้อ, หมูยอ เพิ่มเติม เพื่อเป็นสินค้าของฝากจากเชี ยงใหม่อีกด้วย
จนกระทั่งปี พ.ศ. 2537 ทางจังหวัดเชียงใหม่โดยท่านผู้ ว่าราชการจังหวัด ได้มอบเข็มเกียรติคุณวันอนุรั กษ์มรดกไทย ให้แก่ คุณอัมพร ศรีทาเกิด ในฐานะผู้มีผลงานดีเด่นการอนุรั กษ์ด้านอาหารพื้นเมือง ซึ่งในครั้งนั้นได้นำความภาคภู มิใจมายังคุณอัมพรเป็นอย่างยิ่ง จึงตั้งใจไว้ว่าจะทำร้านเล็กๆ ของตัวเองให้เป็นเหมือนห้องรั บแขกอีกแห่งหนึ่งของเชียงใหม่ ให้ได้ เพื่อที่ว่าเมื่อมีอาคันตุ กะจากต่างเมืองแวะมาเยี่ยมเยือน จะได้พามาแวะมาลองรั บประทานอาหารเหนือ อีกทั้งยังสามารถซื้อติดไม้ติ ดมือ ไปเป็นของฝากญาติสนิทมิ ตรสหายได้อีกด้วย


ปัจจุบันร้านอัมพรไส้อั่วเม็ งราย ได้มีการแยกส่วนการผลิตออกจากส่ วนหน้าร้าน จึงทำให้มีการควบคุมคุณภาพ และความสะอาดในการผลิตได้ดียิ่ งขึ้น อีกทั้งยังให้ความสำคัญต่อการคั ดคุณภาพของวัตถุดิบทั้งในด้ านความสดใหม่ และปลอดจากสารพิษในผัก เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่ทุกท่ านเชื่อมั่นได้ทั้ งรสชาดและความสะอาดถูกหลักอนามั ย พร้อมทั้งได้มีการพัฒนาบรรจุภั ณฑ์ เพื่อช่วยยืดอายุของผลิตภัณฑ์ ให้นานขึ้นโดยไม่ใช้วัตถุกันเสี ย เพราะนั่นคือความตั้งใจจริ งของร้านอัมพรไส้อั่วเม็งราย ที่ต้องการสืบทอดวัฒนธรรมการกิ นอยู่แบบพื้นเมืองเหนือ ไปพร้อมกับการมีสุขภาพดีของผู้ บริโภคทุกท่าน